การศัลยกรรมผ่าตัดหนังตาบน  เป็นอีกทางเลือกสำหรับหลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาเล็ก ชั้นตาหลบใน หางตาตก แบ่งกว้างๆ เป็น 2 ประเภท คือ

   1. การผ่าตัดกรณี  "ตาชั้นเดียว"  หรือ  "ตาสองชั้น"  แต่ชั้นค่อนข้างเล็ก ไม่ต้องตัดหนังตาออก หรือ ตัดออกเพียงเล็กน้อย มักทำในคนอายุน้อย

   2. การผ่าตัดกรณี  "ตาสองชั้น"  เมื่ออายุมากขึ้นหนังตาตกมาบดบังสายตา หรือ ขนตาแยงเข้ามาในดวงตา ทำให้เกิดการระคายเคือง การผ่าตัดจะคล้ายกรณีแรก แต่จะมีการตัดหนังตาออก



เทคนิคการผ่าตัดหนังตาบนให้เหมาะกับเปลือกตาแต่ละประเภท

   1. ใช้การเย็บเป็นจุด  โดยเย็บที่เปลือกตาประมาณ  2-3 จุด เหมาะสำหรับตาชั้นเดียวที่ไม่มีไขมันหรือผิวหนังส่วนเกินที่ต้องตัดออก ข้อดี คือ ไม่บวมมากและแผลหายเร็ว  ข้อเสีย คือ ไหมอาจหลุดได้ หากขยี้ตาแรงๆ และดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

   2. ใช้มีดหรือเลเซอร์กรีด  เหมาะสำหรับตาชั้นเดียว  ตาสองชั้นหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากันหรือไม่ชัด  มีไขมันที่เปลือกตา หรือ มีผิวหนังส่วนเกิน โดยรอยแผลจะซ่อนอยู่ในเปลือกตา

   3. กรีดตา พร้อมเปิดหัวตาและหางตา เหมาะกับผู้ที่มีหัวตาและหางตาปิด หมายถึงหนังของผิวตาบนลงมาปิดหัวตาหรือหางตา ทำให้ตาดูแคบ จะใช้แค่วิธีกรีดอย่างเดียวเพื่อทำให้ตาดูกลมโตไม่ได้ ต้องทำร่วมกับการศัลยกรรมหัวตาและหางตาด้วย

   4. การเปิดหัวตาหรือหางตาเพียงอย่างเดียว เหมาะกับผู้ที่มีชั้นตาอยู่แล้ว

   5. ยกหางตาให้เฉียงขึ้น สามารถทำได้ด้วยการกรีดหนังตา  พร้อมกับการยกหางตาขึ้นให้เหมาะกับใบหน้า  ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับกระดูกเบ้าตาของแต่ละบุคคล

   6. กรณีที่ตาสองชั้นแต่เบ้าตาลึก สามารถแก้ไขด้วยการเติมไขมันที่เบ้าตา

 

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดหนังตา

• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 วัน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

• ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1 สัปดาห์

  • หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS  เช่น Ibuprofen เป็นต้น

  • งดยา และอาหารเสริม เช่น แอสไพริน  วิตามินเอ วิตามินอี  น้ำมันปลา หรือ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

  • กรณีรับประทานอาหารเสริม  ยา  หรือ  วิตามินใดๆ ต้องแจ้งแพทย์ทราบ

• งดสูบบุหรี่ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

• ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดโอกาสที่แผลสัมผัสกับตัวเสื้อ

• หากมีอาการน้ำมูกไหล เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้อบริเวณใกล้เคียง  ควรรักษาให้หายก่อนเข้ารับการผ่าตัด

• หากมีประวัติโรคเริม ควรแจ้งแพทย์ก่อนรักษา

• หากมีโรคประจำตัว หรือ ทราบว่าแพ้ยาชนิดไหน  ต้องแจ้งแพทย์ก่อนรักษา

• หากมีอาการแพ้ยา ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที

​

การปฏิบัติตนหลังการผ่าตัดหนังตา

• หลังการผ่าตัด 3 วันแรก  ให้ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาเพื่อลดอาการบวม  หลังจากนั้นให้ประคบอุ่น

• หลังการผ่าตัดอย่างน้อย  2 สัปดาห์  ให้นอนหนุนศีรษะสูง  ห้ามนอนราบหรือนอนตะแคง  ใช้หมอนรองคอช่วยในการประคองให้นอนในท่าที่เหมาะสม

• ช่วงที่ยังมีรอยช้ำ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และ ทากันแดดทุกวัน

• ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดโอกาสที่แผลสัมผัสกับตัวเสื้อ

• ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ห้ามให้แผลโดนน้ำ เพราะจะทำให้แผลหายช้า

• ห้ามก้มหน้าสระผม  ให้ใช้วิธีนอนหงายสระผม ประมาณ 2 สัปดาห์

• งดการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตา  ประมาณ 2 สัปดาห์

• ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดอาการบวมช้ำ เช่น ฟักทองและใบบัวบก

• งดรับประทานอาหารรสจัด อาหารที่ปรุงไม่สุก อาหารหมักดอง และ อาหารทะเล

• งดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 1 เดือนหลังการผ่าตัด

• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

• งดการออกกำลังกายหนัก หรือ ยกของหนัก อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์

• ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน  เพื่อป้องกันแสงแดดและฝุ่น ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา หรือ ขยี้ตา

• รับประทานยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงมาพบแพทย์ให้ตรงตามนัด

• ยาแก้ปวดที่สามารถรับประทานได้ ได้แก่ พาราเซตามอล หรือ ยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง

• หากมีปัญหาหรืออาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

 

ผลที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด

• หลังผ่าตัดวันแรก อาจมีเลือดออกจากแผลได้บ้าง  ถ้าเลือดออกมากให้กดแผลไว้สักครู่  หากเลือดไม่หยุดไหลให้รีบติดต่อแพทย์

• แผลผ่าตัดติดเชื้อ พบได้ค่อนข้างน้อย

​

เหตุผลที่ต้องเลือก AES Clinic

• แพทย์มีประสบการณ์ในการผ่าตัด

• ให้คำปรึกษา  วิเคราะห์ใบหน้า  และ  แก้ปัญหาได้ตรงจุด

• คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

• รับประกัน 6 เดือน

• อุปกรณ์และเครื่องมือได้มาตรฐาน ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ปลอดภัย 

• แพทย์มือเบา บวมน้อย ช้ำน้อย

• มีการติดตามผลหลังการรักษา

• ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาแพทย์