top of page

กำจัดติ่งเนื้อ/กระเนื้อ

ad ติ่งเนื้อ2.jpg
DSCF7531.jpg
ad ติ่งเนื้อ1.jpg
line
facebook
phone

                              เอสคลินิก พร้อมให้คำปรึกษา และ
                                   ให้บริการกำจัดติ่งเนื้อ/กระเนื้อ

  

2.jpg
5.jpg
ติ่งเนื้อกระเนื้อ

   สนใจกำจัดติ่งเนื้อ/กระเนื้อ    สามารถส่งรูปให้แพทย์ประเมินการรักษา   หรือ นัดหมายปรึกษา   (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

line
ภาพก่อน-หลัง การกำจัดติ่งเนื้อ/กระเนื้อ
จี้ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
k.กระแต-02.jpg
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
k.กระแต-01.jpg

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

รีวิวเลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
เลเซอร์ติ่งเนื้อ
รีวิวติ่งเนื้อ2.jpg
รีวิวติ่งเนื้อ1.jpg
รีวิวจี้ติ่งเนื้อ

คุณเอม

รีวิวตัดติ่งเนื้อ

คุณฝ้าย

คุณผิงอัน

line
facebook
phone

ติ่งเนื้อ

Skin Tags/Acrochordon

ad ติ่งเนื้อ4.jpg
ad ติ่งเนื้อ3.jpg

ติ่งเนื้อ คือ  ก้อนเนื้อที่มีลักษณะนุ่ม  ซึ่งเกิดขึ้นมาและเป็นติ่งอยู่บนผิวหนัง  มีสีและขนาดแตกต่างกันไป โดย  

มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงประมาณ 2 นิ้ว  ติ่งเนื้อไม่ใช่เนื้อร้าย  และไม่กลายเป็นมะเร็งผิวหนัง  โดยทั่วไปพบใน

บริเวณผิวหนังที่เป็นข้อพับ เช่น คอ รักแร้ ลำตัว ใต้ราวนม กลางลำตัว บริเวณผิวหนังที่ย่นทับกัน เปลือกตา

ต้นขาด้านใน หรือ บริเวณหัวหน่าว มักพบในคนที่มีอายุมากขึ้น  และ มีแนวโน้มเกิดขึ้นกับผู้ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ตั้งครรภ์ หรือ มีบุคคลในครอบครัวเคยเกิดติ่งเนื้อ  และบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อยๆ  โดยปกติติ่งเนื้อไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดใดๆ   แต่อาจรู้สึกระคายเคืองบ้าง   หากเสียดสีกับเสื้อผ้า   หรือถ้าก้านที่ยึดติ่งเนื้อถูกบิด    อาจทำให้รู้สึกเจ็บ

ผู้มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดติ่งเนื้อ

  • ภาวะดื้ออินซูลิน ภาวะนี้คือภาวะที่นำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะน้ำตาลผิดปกติ (Prediabetes) โดยภาวะดื้ออินซูลินอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดติ่งเนื้อ เนื่องจากร่างกายดูดซึมน้ำตาลกลูโคสจากกระแสเลือดได้ไม่ดี ทั้งนี้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นว่าติ่งเนื้อเกี่ยวเนื่องกับดัชนีมวลกายที่มาก ภาวะไตรกลีเซอร์ไรด์สูง และภาวะดื้ออินซูลิน

  • ภาวะอ้วน ผู้ที่ประสบภาวะอ้วน จะป่วยเป็นโรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans)  โดยโรคนี้จะเกิดติ่งเนื้อจำนวนมากตามผิวหนังบริเวณคอและรักแร้

  • การตั้งครรภ์ ติ่งเนื้ออาจเป็นผลข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ที่ตั้งครรภ์จะมีระดับฮอร์โมนและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ติ่งเนื้ออาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อและภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล

  • เชื้อเอชพีวี งานวิจัยบางชิ้นได้ศึกษาติ่งเนื้อจำนวน 37 ชิ้น ที่ขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย พบว่าติ่งเนื้อจำนวนร้อยละ 50 ปรากฏดีเอ็นเอของเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus: HPV) จึงกล่าวได้ว่าเชื้อเอชพีวีอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด

  • พันธุกรรม ผู้ที่บุคคลในครอบครัวเคยมีติ่งเนื้อขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจเสี่ยงเกิดติ่งเนื้อได้

 

การรักษา

โดยทั่วไปแล้ว ติ่งเนื้อไม่ใช่เนื้อร้ายหรือกลายเป็นมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม ติ่งเนื้ออาจกลายเป็นภาวะก่อนเป็นมะเร็งหรือเป็นมะเร็ง ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก ผู้ที่ต้องการกำจัดติ่งเนื้อควรปรึกษาแพทย์ให้รอบคอบ ส่วนใหญ่แล้ว มักกำจัดติ่งเนื้อออกเพื่อความสวยงาม โดยมีวิธีรักษาหลายวิธี ดังนี้

  • ผ่าตัดติ่งเนื้อ วิธีนี้กำจัดติ่งเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็เสี่ยงเกิดเลือดออกได้มาก

  • บำบัดด้วยความเย็นจัด (Cryotherapy) วิธีนี้จะรักษาติ่งเนื้อด้วยอุณหภูมิเย็นจัด อีกทั้งยังใช้รักษาผิวหนังบริเวณที่เกิดอาการเจ็บปวดจากเส้นประสาท มะเร็งบางชนิด หรือเซลล์ผิวหนังที่เกิดความผิดปกติ โดยแพทย์จะสอดอุปกรณ์สำหรับรักษาเข้าไปข้างในเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เส้นประสาทถูกทำลาย และลดอุณหภูมิของเครื่องมือจนเย็นจัด เพื่อแช่แข็งเส้นประสาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหรือระคายเคือง

  • จี้ติ่งเนื้อ (Cauterization) วิธีนี้จะใช้ไฟจี้ติ่งเนื้อที่มีสีผิดปกติหรือทำให้เกิดการระคายเคืองให้หลุดออกไป

  • การใช้เลเซอร์ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (Carbondioxide (CO2) Laser) ช่วยกำจัดติ่งเนื้อได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง ก่อนทำมักจะทายาชาทิ้งไว้ 45 นาที  เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บหรือปวด เนื่องจากเลเซอร์มีความละเอียดและแม่นยำสูงมาก จึงสามารถเลือกตัดเฉพาะเนื้อเยื่อที่ต้องการโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื้อรอบๆ รวมถึงมีผลในการหยุดเลือดบริเวณที่ผ่าตัด จึงทำให้แผลมีขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย มีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อย  นอกจากนี้ ยังใช้ในการผ่าตัดรักษาโรคผิวหนัง และ เนื้องอกของผิวหนัง  เช่น  ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ หูด  เนื้องอกของต่อมไขมัน  เนื้องอกของต่อมเหงื่อ สิวหัวปิด และสิวหิน ซึ่งทาง  เอส คลินิกเวชกรรม  ได้ใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  ในการกำจัดติ่งเนื้อ

การดูแลหลังการรักษาด้วย CO2 laser

  • ทายาตามที่แพทย์สั่ง

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ อย่างน้อย 2-3 วัน

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง เป็นเวลา 2 สัปดาห์

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน และงดออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อ อย่างน้อย 2 สัปดาห์

  • ต้องทาครีมกันแดดทุกวัน

  • หลังการรักษาจะมีแผลตกสะเก็ด ห้ามแกะเกาสะเก็ดแผล โดยทั่วไปสะเก็ดแผลจะหลุดเองภายใน 7-14 วัน 

  • ขณะที่มีแผลและหลังสะเก็ดหลุดใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว  *** แผลจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์ ในบางรายอาจนานถึง 3 สัปดาห์

คำแนะนำ

ไม่ควรกำจัดติ่งเนื้อด้วยตนเอง เช่น การดึงออกเอง อาจทำให้เลือดออกหรือมีแผลเป็นได้ และ การแต้มหรือจี้ด้วยกรดโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้เกิดแผลเป็นรุนแรงตามมาได้

โดย : พญ.ณภากุล โรจนสุภัค ปริญญาโทสาขาตจวิทยา.,

Fellowship Training in Cutaneous and Laser Surgery, Institute of Dermatology, Thailand

แผนที่เอส.jpg
bottom of page